Content on this page requires a newer version of Adobe Flash Player.

Get Adobe Flash player

ข่าวสารไม้ยางพารา
การจัดการสวนยางในช่วงหน้าแล้ง
11 มีนาคม 2562
            

การจัดการสวนยางในช่วงหน้าแล้ง

ย่างเข้าสู่ช่วงฤดูแล้งต้นยางจะผลัดใบ เพื่อมีเวลาหยุดพักและสะสมอาหาร ซึ่งช่วงระยะการผลัดใบจะแตกต่างกันไปตามท้องถิ่นและสายพันธุ์  โดยทั่วไประยะผลัดใบตั้งแต่ใบเริ่มร่วงจนถึงใบแก่ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ช่วงนี้เกษตรกรจึงไม่ควรกรีดยาง  เพื่อให้ต้นยางเจริญเติบโตเป็นต้นยางที่สมบูรณ์และกรีดไปได้นานๆ แต่สิ่งที่เกษตรกรควรระมัดระวังในช่วงนี้คือ “ไฟไหม้สวนยาง” เนื่องจากอากาศแห้ง  ประกอบกับมีใบยางร่วงหล่นในสวนยางซึ่งเป็นเชื้อไฟได้อย่างดี จึงไม่ควรทิ้งก้นบุหรี่ ไม่ก่อกองไฟ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวนยางที่อยู่ริมถนนใหญ่ มีรถวิ่งผ่านไปมา จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ได้ง่าย เพียงก้นบุหรี่ที่ทิ้งจากรถหรือจากผู้คนที่เดินผ่าน ขณะเดียวกันเกษตรกรยังต้องเอาใจใส่ดูแลต้นยางเพื่อให้รอดตายและเจริญเติบโตผ่านช่วงฤดูแล้งไปได้อย่างเป็นปกติ  โดยเฉพาะในยางอ่อนหรือยางที่ปลูกใหม่ในภาคอีสานและภาคเหนือ ที่ต้องเผชิญกับสภาวะอากาศที่แห้งแล้งอย่างรุนแรง เนื่องจากระบบรากยังไม่สมบูรณ์และลึกพอที่จะดูดน้ำระดับลึกได้ อาจทำให้การเจริญเติบโตชะงักและแห้งตายได้ เกษตรกรจะมีวิธีปฏิบัติอย่างไร

สถาบันวิจัยยาง การยางแห่งประเทศไทย แนะนำว่า ในช่วงฤดูแล้งต้นยางที่ปลูกใหม่จนกระทั่งอายุ 3 ปี เกษตรกรควรเอาใจใส่ดูแลด้วยการหาวัสดุคลุมโคนต้น ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติที่จำเป็นก่อนเข้าฤดูแล้ง ในขณะที่ดินยังมีความชุ่มชื้นอยู่ การคลุมโคนต้นยางจะช่วยเก็บรักษาความชื้นในดิน ช่วยให้อัตราการรอดตายของต้นยางสูงขึ้น

 

วัสดุที่ใช้ควรเป็นวัสดุที่เกษตรกรหาได้ง่ายและมีอยู่ในท้องถิ่น

เช่น หญ้าคา ฟางข้าว ใบกล้วย หญ้าขน ต้นถั่วชนิดต่างๆ ซากพืชคุม ซากวัชพืช และซากพืชชนิดอื่นๆ แทบทุกชนิด ตามแต่ที่จะหาได้ ซากพืชเหล่านี้นอกจากช่วยรักษาความชื้นของดินแล้ว เมื่อถึงเวลาเน่าเปื่อยจะช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุให้กับดินช่วยปรับปรุงโครงสร้างและความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน เป็นผลดีต่อการเจริญเติบโตของต้นยางต่อไป

สำหรับช่วงเวลาเหมาะสมที่เกษตรกรควรคลุมโคนต้นยางนั้น แนะนำว่าควรคลุมก่อนเข้าสู่ฤดูแล้ง ประมาณ 1 เดือน เป็นช่วงที่ดินยังมีความชุ่มชื้นอยู่โดยใช้วัสดุคลุมดินบริเวณโคนต้นยางเป็นวงกลมให้ห่างจากโคนต้น 1 ฝ่ามือ รัศมีคลุมพื้นที่ 1 เมตร หนาประมาณ 10 เซนติเมตร ระวังอย่างให้วัสดุคลุมชิดโคนต้นมากเกินไป เพราะจะมีการสะสมความร้อนในวัสดุคลุมทำให้ลำต้นยางเสียหายเกิดอาการไหม้และแห้งเป็นรอยแผล และยังอาจเป็นแหล่งอาศัยของหนูและสัตว์ชนิดอื่นที่ทำลายต้นยางได้ถ้าสามารถหาวัสดุคลุมได้ปริมาณมาก เกษตรกรควรนำมาคลุมตลอดแนวแถวยาง  ห่างจากแนวโคนต้นออกไปข้างละ 1 เมตร  วิธีนี้จะช่วยรักษาความชุ่มชื้นในดินได้ดีและยังช่วยป้องกันวัชพืชขึ้นในระหว่างแถวยางได้ดีอีกด้วย  นอกจากนี้ในยางอ่อนที่มีอายุ 1-2 ปีที่ปลูกในเขตแห้งแล้งมักเกิดอาการลำต้นไหม้จากแสงแดด โดยปรากฏรอยไหม้ เนื่องจากบริเวณนั้นได้รับแสงแดดเป็นเวลานานติดต่อกันจนเนื้อเยื่อเสียหาย ไม่สามารถเจริญเติบโตต่อไปได้เพราะฉะนั้นก่อนเข้าช่วงแล้งแนะนำให้เกษตรกรใช้ปูนขาวหรือปูนที่ใช้ปรับสภาพดิน 1 ส่วนผสมน้ำ 2 ส่วน หมักแช่ค้างคืนไว้ แล้วนำมาทาโคนต้น  ส่วนที่เป็นสีน้ำตาลขึ้นมาจนถึงส่วนที่เป็นสีน้ำตาลปนเขียวเพื่อป้องกันความรุนแรงของแสงแดด

ขณะเดียวกัน ก่อนเข้าฤดูแล้งแนะนำให้เกษตรกรกำจัดวัชพืชบริเวณแถวยางและระหว่างแถวยางด้วย โดยทำแนวกันไฟด้วยการกำจัดวัชพืชรอบๆ สวนเป็นแนวกว้างไม่ต่ำกว่า 3 เมตร เก็บเศษวัชพืชออกให้หมด และไม่ควรใช้วิธีพ่นยาเพื่อกำจัดวัชพืช เพราะวัชพืชที่แห้งตายจะเป็นเชื้อไฟได้อย่างดีระมัดระวังไม่ทิ้งก้นบุหรี่ หรือก่อกองไฟบริเวณสวนยาง หมั่นตรวจตราดูแลสวนยางอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวนยางที่อยู่ริมถนนใหญ่ กรณีที่ต้นยางถูกไฟไหม้เล็กน้อย ให้ใช้ปูนขาวละลายน้ำ ในอัตราส่วนเท่าๆ กัน ทิ้งค้างคืนไว้  แล้วนำมาทาลำต้นทันที  เพื่อป้องกันความร้อนจากแสงแดด โรคแมลงที่อาจเข้าทำลายได้ แต่หากต้นยางได้รับความเสียหายมากจนไม่อาจรักษาได้เกินกว่าร้อยละ 40 ของทั้งสวน แนะนำว่าควรโค่นทิ้งแล้วปลูกใหม่

ที่มา : สถาบันวิจัยยาง การยางแห่งประเทศไทย

ทำอย่างไรเมื่อต้นยางถูกไฟไหม้

กรณีต้นยางที่ถูกไฟไหม้ไม่รุนแรง หรือต้นยางเล็กอายุระหว่าง 1-3 ปี เกษตรกรควรดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากในต้นยางอ่อนที่ได้รับแดดแรงติดต่อกันเป็นเวลานาน จะส่งผลให้เซลล์เนื้อเยื่อส่วนที่รับแสงแดด ไหม้เสียหาย และเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ แนะนำให้เกษตรกรใช้ปูนขาวผสมน้ำอัตรา 1:2 ทิ้งไว้ค้างคืน แล้วทาลำต้น เพื่อป้องกันความร้อนจากแสงแดด ป้องกันต้นยางสูญเสียน้ำ ที่สำคัญ ป้องกันโรคและแมลงที่อาจเข้าทำลายได้ในเวลาต่อมา

ในกรณีต้นยางที่ถูกไฟไหม้ไม่รุนแรง หากต้นยางถูกไฟไหม้แล้วถ้าเปลือกต้นยางบริเวณที่ถูกไฟไหม้ แสดงอาการแตกออกมา ให้ใช้มีดคมๆ ปาดเอาส่วนที่เสียหายออก แล้วทายาป้องกันเชื้อรา และสารเคมี รักษาเนื้อไม้ทาซ้ำอีกครั้ง จะทำให้รอยแผลหายสนิทได้เร็วขึ้น   หากต้นยางในสวนได้รับความเสียหาย เป็นจำนวนมาก จนไม่อาจรักษาหน้ายางได้เกิน 40% ของทั้งสวน ควรทำการปลูกใหม่ ซึ่งเกษตรกร สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือปรึกษาได้ที่ การยางแห่งประเทศไทยในพื้นที่ที่ท่านสะดวก

ที่มา : https://www.yangpalm.com/2016/12/blog-post_25.html

 

ช่องทางการติดต่อ

Tel. : 098-014 3881, 098-010 4288, เเละ 089-466 2610

Line : เอพีเครับซื้อไม้ยาง (คลิก)

Facebook : เอพีเครับซื้อไม้ยาง (คลิก)

Website : www.apkgroup.co.th (คลิก)

นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้สมัครงาน

(Applicant Privacy Notice)

       บริษัท เอ.พี.เค.เฟอร์นิชิ่งพาราวู้ด จำกัด และบริษัทในเครือ APK GROUP (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริษัทฯ”) ให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562  ดังนั้นเพื่อให้บริษัทฯ สามารถ เก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562  บริษัทฯ ใคร่ขอความยินยอมจากผู้สมัครงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผย โดยมีรายละเอียดดังนี้   ทั้งนี้ผู้สมัครงานรับทราบว่าหนังสือแสดงความยินยอมฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของใบสมัครงาน

ข้อ 1.  วัตถุประสงค์การเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

       บริษัทฯ มีการเก็บ รวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

       1. เพื่อใช้ในการดำเนินการตามกระบวนการสรรหาของบริษัทฯ

       2. เพื่อการพิจารณาคุณสมบัติและทักษะของท่านว่าเหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นหรือไม่

       3. เพื่อประโยชน์ในการติดต่อ สื่อสารเพื่อการนัดหมายสัมภาษณ์งาน การส่งข่าวสารที่เกี่ยวกับตำแหน่งงาน

       4. เพื่อใช้ประกอบในการอ้างอิงการยืนยันตัวตนของผู้สมัครและความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือข้อมูลอื่นๆ ที่ผู้สมัครงานได้ให้ไว้แก่บริษัทฯ

       5. เพื่อแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอื่นๆ ของผู้สมัครงานไปยังบริษัท เอพีเคเฟอร์นิชิ่งพาราวู้ด จำกัด  และ/หรือบริษัทในเครือ APK GROUP

       6. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายต่างๆ เช่น กฎหมายแรงงาน กฎหมายภาษีอากร และกฎหมายหรือกฎ ระเบียบใดๆ ที่มีผลบังคับใช้กับบริษัทฯ

       ทั้งนี้ หากภายหลังบริษัทฯได้มีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯจะแจ้งให้ท่านทราบและขอความยินยอมก่อนการเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผย ทั้งนี้ บริษัทฯได้กำหนดให้มีการบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐานด้วย

 

ข้อ 2. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งบริษัทฯ ได้เก็บ รวมรวม ใช้หรือเปิดเผย มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

      1.ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น เพศ ภาพถ่าย วัน เดือน ปี เกิด

      2.Resume Curriculum Vitae (CV) จดหมายนำ ประสบการณ์ทำงาน และข้อมูลด้านการศึกษา

      3.ข้อมูลในการติดต่อกับผู้สมัครงาน เช่น ที่อยู่ ที่อยู่ของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-Mail address) หมายเลขโทรศัพท์  เป็นต้น

      4.ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือใบอนุญาตอื่นๆ ที่เกี่ยวกับงาน ใบอนุญาตหรือประกาศนียบัตรที่มีอยู่

      5.ข้อมูล IP Address หรือข้อมูลที่เก็บรวบรวมผ่านคุ๊กกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีที่คล้ายกัน

      6.ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น เช่น ผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง ผู้รับผลประโยชน์ รายละเอียดหรือเอกสารเกี่ยวกับคู่สมรส  บุตร บิดามารดา พี่น้องร่วมบิดามารดา รายชื่อเครือญาติของท่าน ซึ่งรวมถึงเบอร์โทรศัพท์/โทรศัพท์มือถือของบุคคลดังกล่าว เป็นต้น ทั้งนี้ในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่สามแก่บริษัทฯ ท่านรับรองและรับประกันว่าท่านมีอำนาจในการกระทำดังกล่าวและอนุญาตให้บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามคำประกาศฉบับนี้  นอกจากนี้ท่านยังมีหน้าที่ในการแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงคำประกาศฉบับนี้และ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้น

      7.ข้อมูลที่รวบรวมจากผู้สมัครงาน เช่น ข้อมูลที่ผู้สมัครงานแจ้งแก่บริษัทฯ ในระหว่างการสัมภาษณ์งาน ข้อมูลของผู้สมัครงานในการทำแบบทดสอบต่างๆ ข้อมูลของผู้สมัครงานที่บริษัทฯ ได้บันทึกภาพและ/หรือเสียงในระหว่างการทำกิจกรรมเพื่อกระบวนการสรรหาของบริษัท ฯ  เป็นต้น

 

ข้อ 3. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

       บริษัทฯจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลา 2 ปี นับแต่สิ้นสุดขั้นตอนการสัมภาษณ์รอบสุดท้ายของท่าน เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้

       1.กรณีที่ผู้สมัครงานผ่านการคัดเลือกเข้าทำงานเป็นผู้สมัครงานของบริษัทฯ บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปในระยะที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ

      2.กรณีมีเหตุจำเป็นตามคำร้องขอจากเจ้าของข้อมูล, คำสั่งจากหน่วยงานของรัฐ, คำสั่งศาล

      3.บริษัทฯ จะจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

 

ข้อ 4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

       บริษัทฯ จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อบุคคลใดโดยปราศจากการอนุญาตจากเจ้าของข้อมูล อย่างไรก็ดี เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์การเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยตามที่ระบุไว้ข้างต้นผู้สมัครงานรับทราบและยินยอมว่าบริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้กับบุคคลอื่น ดังต่อไปนี้

       1.บริษัท เอ.พี.เค.เฟอร์นิชิ่งพาราวู้ด และ/หรือบริษัทในเครือ APK GROUP

       2.บุคคลหรือองค์กรที่บริษัทฯ ได้ว่าจ้างให้ดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการองค์กรของบริษัทฯ เช่น ผู้ให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศผู้ให้บริการวิเคราะห์ ข้อมูล สถิติ การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์การออกแบบ เป็นต้น

       3.บริษัท ฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลคุ้มครองสวัสดิภาพแรงงาน รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย เช่น การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย การบังคับคดี เป็นต้น

  ทั้งนี้บริษัทฯ จะดำเนินการให้บุคคลหรือองค์กรเหล่านั้นมีมาตราการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด และอยู่บนพื้นฐานการรู้เท่าที่จำเป็นอย่างเคร่งครัดเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญา

 

ข้อ 5.    สิทธิของผู้สมัครงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้สมัครงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิดังนี้

       1.ขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม

       2.แจ้งให้บริษัทฯดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

       3.คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ที่กฎหมายอนุญาตให้เก็บได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล เมื่อใดก็ได้

       4.ขอให้บริษัทฯ ดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีตามที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่มีการร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลจากระบบนั้น ข้อมูลดังกล่าวอาจจะยังคงได้รับการบันทึกหรือทำสำเนาไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ (Server) หรือระบบสำรอง (Backup System) ของบริษัทฯ เพื่อป้องกันการเข้าสู่ระบบภายหลังโดยบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือเพื่อเป็นการสำรองข้อมูลในกรณีที่เกิดความผิดพลาด บกพร่อง หรือเกิดจากความขัดข้องของระบบ หรือในกรณีที่เกิดจากการกระทำใดๆ ที่มีจุดประสงค์มุ่งร้ายของบุคคลหรือซอฟต์แวร์อื่น

       1.ขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีตามที่กฎหมายกำหนด

       2.ถอนความยินยอมเสียเมื่อใดก็ได้

       3.ร้องเรียนในกรณีที่บริษัท ฯ หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

       อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีสิทธิปฏิเสธสิทธิของผู้สมัครงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ข้างต้นโดยอาศัยเหตุตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในภายหน้า หรือกฎหมายอื่นได้อนุญาตไว้

 

ข้อ 6. ผลของการถอนความยินยอม

          ความยินยอมที่ผู้สมัครงานให้ไว้เพื่อเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้นจะยังคงมีผลบังคับใช้จนกว่าผู้สมัครงานจะได้บอกถอนความยินยอมเป็นหนังสือแจ้งต่อบริษัทฯ

          เมื่อบริษัทฯได้รับแจ้งความประสงค์ของผู้สมัครงานตามที่ระบุไว้ในข้อ 5. แล้ว บริษัทฯจะดำเนินการตรวจสอบและแจ้งผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการร้องขอของผู้สมัครงาน (ถ้ามี)   โดยจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นตามคำขอภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับการแจ้งเป็นหนังสือตามแบบฟอร์มที่บริษัทฯ กำหนดจากผู้สมัครงาน

           การเพิกถอนความยินยอมของผู้สมัครงาน จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่ผู้สมัครงานได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านั้น

 

ข้อ 7. คุกกี้ (Cookies)

            เว็บไซต์ของบริษัท อาจใช้คุกกี้ในบางกรณี คุกกี้ คือไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กที่จัดเก็บข้อมูลซึ่งแลกเปลี่ยนระหว่างคอมพิวเตอร์ของท่านและเว็บไซต์ของบริษัท บริษัทใช้คุกกี้เฉพาะเพื่อการจัดเก็บข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่านในครั้งถัดไปที่ท่านกลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท 

        เมื่อท่านเข้าใช้บริการเว็บบราวเซอร์ ท่านสามารถตั้งค่าเพื่อ ยอมรับคุกกี้ทั้งหมดหรือปฏิเสธคุกกี้ทั้งหมด หรือแจ้งเตือนให้ท่านทราบเมื่อมีการส่งคุกกี้ โดยท่านสามารถเข้าไปตั้งค่าที่เมนู “ความช่วยเหลือ” ในบราวเซอร์ของท่านเพื่อเรียนรู้วิธีการเปลี่ยนแปลงการใช้คุกกี้ของท่านได้  โปรดทราบว่าการปิดการใช้งานคุกกี้อาจส่งผลต่อการใช้งานบางบริการของท่านได้ 

 

ข้อ 8.   ช่องทางติดต่อ

       ผู้สมัครงานสามารถติดต่อแผนกทรัพยากรมนุษย์ หรือ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้ตามช่องทาง ดังต่อไปนี้

 

อีเมล์  kanya.b@apkgroup.co.th

ไปรษณีย์หรือส่งด้วยตนเองส่งถึง :  แผนกทรัพยากรมนุษย์  หัวหน้าส่วนงานสรรหาและอบรม หรือ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ที่อยู่ :   บริษัท เอ.พี.เค.เฟอร์นิชิ่งพาราวู้ด จำกัด เลขที่ 508 หมู่ 4 ถนนสนามบิน-บ้านกลาง ตำบลควนลัง อำเภอ                หาดใหญ่  จังหวัดสงขลา  90110

ข้าพเจ้าได้รับทราบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ในการเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าตามขอบวัตถุประสงค์ ดังที่ได้อธิบายไว้ข้างต้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วและขอให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ดังต่อไปนี้

ข้าพเจ้าให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้เปิดเผยและโอนซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในหนังสือแสดงความยินยอมฉบับนี้