Content on this page requires a newer version of Adobe Flash Player.

Get Adobe Flash player

ข่าวสารไม้ยางพารา
หน้ายางตายนึ่ง (โรคหน้ายางแห้ง / เปลือกแห้ง)
11 มีนาคม 2562
            

หน้ายางตายนึ่ง (โรคหน้ายางแห้ง / เปลือกแห้ง)

อาการเปลือกแห้งของยางพารา เป็นลักษณะความผิดปกติของการไหลของน้ำยาง ทำให้ผลผลิตลดลงจนกระทั่งไม่สามารถเก็บผลผลิตได้

ปัญหายางหน้าตาย 2 ประเด็นหลักคือ

1.ยางตายนึ่งชั่วคราว (เมื่อเจอโรคทางดินจะแสดงปฏิกิริยา น้ำยางไม่ไหลทุกท่อไหลออกหัว ออกท้าย)

2.ยางตายนึ่งแบบถาวร (ไม้รู้วิธีรักษาปล่อยให้ต้นยางสู้กับโรคโดยไม่มีวิธีช่วยเหลือ หรือรู้แต่เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องกอปรกับยาที่รักษาไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ)

สาเหตุของโรค

เกิดจากการขาดการบำรุงรักษา การใส่ปุ๋ยไม่ตรงกับเวลาที่กำหนด และใช้ปุ๋ยไม่เหมาะสมกับสภาพของดินกรีดเอาน้ำยางออกมากเกินไป กรีดถี่เกินไป และใช้ระบบกรีดไม่ถูกต้อง โดยอาจมีหลายปัจจัยร่วมกันได้แก่

1. สภาพแวดล้อม ได้แก่ ที่ตั้งสวนยาง สภาพภูมิอากาศ ปริมาณน้ำฝน รวมถึงโครงสร้างดิน  และความอุดมสมบูรณ์ของดินปลูก ในเขตแห้งแล้ง มีโอกาสเกิดอาการเปลือกแห้งได้มากกว่าเขตที่มีฝนตกชุก

2. พันธุ์ยาง อาการเปลือกแห้งเป็นลักษณะประจำพันธุ์อย่างหนึ่ง พันธุ์ยางที่ให้ผลผลิตสูงมีโอกาสที่จะเกิดเปลือกแห้งสูง และพันธุ์ยางบางพันธุ์เกิดอาการเปลือกแห้งได้ง่าย เช่น BPM 24 และ ยางตระกูล PB

3. ระบบกรีด การกรีดถี่ทำให้มีโอกาสแสดงอาการเปลือกแห้งได้สูงกว่าในระบบกรีดแบบวันเว้นวันเนื่องจากต้นยางสังเคราะห์น้ำยางขึ้นมาใหม่ไม่ทัน

 

 

4. การเปิดกรีดต้นยางขนาดเล็ก นอกจากทำให้ต้นยางชะงักการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตน้อยแล้วยังมีผลทำให้ต้นยางเกิดอาการเปลือกแห้งมากขึ้น

5. การใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง ความถี่ของการใช้และความเข้มข้นของสารเคมีเร่งน้ำยาง  มีผลทำให้การเกิดอาการเปลือกแห้งเร็วและรุนแรงขึ้น

6. ไม่ทราบสาเหตุ พบในต้นที่ยังไม่เปิดกรีด ต้นยางที่สมบูรณ์และปลูกในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมหรือต้นยางที่กรีดด้วยระบบปกติโดยไม่สามารถวินิจฉัยได้ส่าเกิดจากสาเหตุใด

7. ปุ๋ยดีแต่ดินเป็นกรด ดินยึดธาตุอาหารในดินไว้หมด คือ มีปุ๋ยในดิน แต่ยางกินไม่ได้ นอกจากนั้นเมื่อดินเป็นกรดธาตุที่ละลายออกมาได้ดีคือธาตุเหล็ก ซึ่งถ้ามีมากจะเป็นพิษต่อต้นยาง

8. ดินแน่นเนื่องจากเป็นถนนเข้าสวน รากยางไม่สามารถแทรกลงดินได้ ต้องโผล่ขึ้นมาเหนือพื้นดินทำให้ยางขาดสารอาหารได้เช่นกัน

9. การเปิดกรีดยางต้นเล็กไม่ได้ขนาด  การกรีดไม่ประณีตทำให้เกิดแผลเป็น การกรีดหักโหมมากเกินไปและการเปิดกรีดหน้ายางทั้งสองด้าน เพื่อหาด้านที่ยางจะไหลล้วนเป็นการเร่งให้เกิดยางหน้าแห้ง ยางหน้าตายทั้งนั้น

10. การใช้สารทาหน้ายางที่ไม่เหมาะสม การใช้ปูนทาหน้ายาง เปลือกยางจะอุดตัน ทำให้หน้ายางเกิดใหม่บาง ไม่นิ่ม

11. ยางหน้าตายเป็นแถว เพราะโรคติดไปกับมีดกรีดยาง จากต้นหนึ่งไปยังต้นอื่นๆ  มีน้ำยางไหลออกมาเป็นคราบดำ ๆ เปลือกแตก  ยางไหลเพราะเชื้อราเข้าทำลายท่อน้ำยางภายในต้นลักษณะอาการของโรคหน้ายางแห้ง

1. ลักษณะอาการก่อนเกิดโรคต้นยางที่จะเป็นโรคเปลือกแห้ง มักจะแสดงอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างประกอบกันให้สังเกตเห็นได้ ดังนี้

1.1 น้ำยางบนรอยกรีดจะจับตัวกันเร็วกว่าปกติ

1.2 น้ำยางที่กรีดได้จะมีปริมาณมากกว่าปกติ การหยดของน้ำยางนานกว่าปกติ

1.3 น้ำยางที่กรีดได้จะใส และมีปริมาณเนื้อยางแห้งต่ำ

1.4  เปลือกของต้นยางเหนือรอยกรีดจะมีสีซีดลง

2. ลักษณะอาการขณะเป็นโรคต้นยางเปลือกจะแห้ง กรีดแล้วไม่มีน้ำยางไหล เปลือกต้นยางตามลำต้นจะแตก พุพอง แต่ต้นยางไม่ตายถ้าปล่อยปละไม่ควบคุม จะแพร่กระจายลุกลาม ทำให้หน้ากรีดของยางต้นนั้นเสียหายทั้งหมด การลุกลามของโรคมีหลายลักษณะดังนี้

2.1 โรคนี้ส่วนใหญ่จะลุกลามไปทางด้านซ้ายมือเสมอ

2.2  เกิดโรคนี้แล้วไม่มีการดูแลรักษา โรคจะลุกลามไปยังหน้ากรีดที่อยู่ติดกัน

2.3 การลุกลามของโรคบนหน้ากรีด ถ้ากรีดจากบนลงล่างโรคก็จะลุกลามจากบนลงล่างถ้ากรีดจากล่างขึ้นบนโรคก็จะลุกลามจากล่างขึ้นบน

2.4 อาการเปลือกแห้งจะไม่ลุกลามจากเปลือกที่ยังไม่ทำการกรีดไปยังเปลือกงอกใหม่ และไม่ลุกลามจากเปลือกงอกใหม่ด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง

2.5 ถ้าเป็นโรคเปลือกแห้งชนิดที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายใน 2 - 3 เดือน หน้ากรีดของต้นยางจะเป็นโรคเปลือกแห้งทั้งหมด

การป้องกันกำจัด

1. เอาใจใส่บำรุงรักษาสวนยางให้สมบูรณ์แข็งแรงตั้งแต่เริ่มปลูก

2. ใส่ปุ๋ยที่เหมาะสมตามจำนวนและระยะเวลาที่ทางวิชาการแนะนำ

3. ใช้ระบบกรีดให้ถูกต้องและเหมาะสมกับพันธุ์ยาง

4. อย่ากรีดยางเมื่อยางยังไม่ได้ขนาดเปิดกรีด

5. หยุดกรีดยางในขณะยางผลัดใบ

การจัดการกับยางที่จะเปิดกรีดใหม่

1. สำหรับยางที่เริ่มเปิดกรีดใหม่ ก่อนเปิดกรีด 3 เดือน ควรทำร่องแยกหน้ากรีดออกจากกันในการทำร่องให้ใช้สิ่วเซาะเป็นร่องลึกจนถึงเนื้อไม้ โดยทำร่องเดียวตรงตลอดจากจุดที่จะเปิดกรีดด้านบนจนถึงส่วนโคนของต้นยาง

2. ทำร่องบริเวณโคนต้นยางให้ร่องนี้ขวางกับลำต้น โดยให้ร่องจดกับร่องที่ทำแบ่งแยกหน้ากรีดเพื่อป้องกันมิให้โรคลุกลามลงสู่ราก

3. เปิดกรีดเมื่อต้นยางได้ขนาดและกรีดตามระบบที่เหมาะสมกับพันธุ์ยาง

การจัดการกับยางที่เปิดกรีดแล้ว และเป็นโรคเปลือกแห้งเพียงบางส่วน

1. หากต้นยางแสดงอาการเปลือกแห้งเพียงบางส่วน ถ้าไม่ควบคุมโรคจะลุกลามออกไป ทำให้หน้ากรีดเสียหายทั้งหมด

2. ควบคุมโดยการทำร่องแยกส่วนที่เป็นโรคออกจากกัน วิธีทำร่องใช้สิ่วเซาะร่องให้ลึกถึงเนื้อไม้รอบบริเวณที่เป็นโรค ห่างจากบริเวณที่เป็นโรคประมาณ 2 ซม.

3. หลังจากทำร่องเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเปิดกรีดต่อไปได้ตามปกติ แต่ต้องเปิดกรีดต่ำกว่าบริเวณที่เป็นโรค

------------------------------------------------------------------------------------

แหล่งอ้างอิงข้อมูล :

https://www.rakbankerd.com/agriculture/page.php?id=211&s=tblplant

โรคและศัตรูยางพาราที่สำคัญในประเทศไทย, สถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, 2549

https://www.gotoknow.org/posts/286836

 

ช่องทางการติดต่อ

Tel. : 098-014 3881, 098-010 4288, เเละ 089-466 2610

Line : เอพีเครับซื้อไม้ยาง (คลิก)

Facebook : เอพีเครับซื้อไม้ยาง (คลิก)

Website : www.apkgroup.co.th (คลิก)

นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้สมัครงาน

(Applicant Privacy Notice)

       บริษัท เอ.พี.เค.เฟอร์นิชิ่งพาราวู้ด จำกัด และบริษัทในเครือ APK GROUP (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริษัทฯ”) ให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562  ดังนั้นเพื่อให้บริษัทฯ สามารถ เก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562  บริษัทฯ ใคร่ขอความยินยอมจากผู้สมัครงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผย โดยมีรายละเอียดดังนี้   ทั้งนี้ผู้สมัครงานรับทราบว่าหนังสือแสดงความยินยอมฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของใบสมัครงาน

ข้อ 1.  วัตถุประสงค์การเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

       บริษัทฯ มีการเก็บ รวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

       1. เพื่อใช้ในการดำเนินการตามกระบวนการสรรหาของบริษัทฯ

       2. เพื่อการพิจารณาคุณสมบัติและทักษะของท่านว่าเหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นหรือไม่

       3. เพื่อประโยชน์ในการติดต่อ สื่อสารเพื่อการนัดหมายสัมภาษณ์งาน การส่งข่าวสารที่เกี่ยวกับตำแหน่งงาน

       4. เพื่อใช้ประกอบในการอ้างอิงการยืนยันตัวตนของผู้สมัครและความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือข้อมูลอื่นๆ ที่ผู้สมัครงานได้ให้ไว้แก่บริษัทฯ

       5. เพื่อแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอื่นๆ ของผู้สมัครงานไปยังบริษัท เอพีเคเฟอร์นิชิ่งพาราวู้ด จำกัด  และ/หรือบริษัทในเครือ APK GROUP

       6. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายต่างๆ เช่น กฎหมายแรงงาน กฎหมายภาษีอากร และกฎหมายหรือกฎ ระเบียบใดๆ ที่มีผลบังคับใช้กับบริษัทฯ

       ทั้งนี้ หากภายหลังบริษัทฯได้มีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯจะแจ้งให้ท่านทราบและขอความยินยอมก่อนการเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผย ทั้งนี้ บริษัทฯได้กำหนดให้มีการบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐานด้วย

 

ข้อ 2. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งบริษัทฯ ได้เก็บ รวมรวม ใช้หรือเปิดเผย มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

      1.ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น เพศ ภาพถ่าย วัน เดือน ปี เกิด

      2.Resume Curriculum Vitae (CV) จดหมายนำ ประสบการณ์ทำงาน และข้อมูลด้านการศึกษา

      3.ข้อมูลในการติดต่อกับผู้สมัครงาน เช่น ที่อยู่ ที่อยู่ของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-Mail address) หมายเลขโทรศัพท์  เป็นต้น

      4.ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือใบอนุญาตอื่นๆ ที่เกี่ยวกับงาน ใบอนุญาตหรือประกาศนียบัตรที่มีอยู่

      5.ข้อมูล IP Address หรือข้อมูลที่เก็บรวบรวมผ่านคุ๊กกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีที่คล้ายกัน

      6.ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น เช่น ผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง ผู้รับผลประโยชน์ รายละเอียดหรือเอกสารเกี่ยวกับคู่สมรส  บุตร บิดามารดา พี่น้องร่วมบิดามารดา รายชื่อเครือญาติของท่าน ซึ่งรวมถึงเบอร์โทรศัพท์/โทรศัพท์มือถือของบุคคลดังกล่าว เป็นต้น ทั้งนี้ในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่สามแก่บริษัทฯ ท่านรับรองและรับประกันว่าท่านมีอำนาจในการกระทำดังกล่าวและอนุญาตให้บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามคำประกาศฉบับนี้  นอกจากนี้ท่านยังมีหน้าที่ในการแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงคำประกาศฉบับนี้และ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้น

      7.ข้อมูลที่รวบรวมจากผู้สมัครงาน เช่น ข้อมูลที่ผู้สมัครงานแจ้งแก่บริษัทฯ ในระหว่างการสัมภาษณ์งาน ข้อมูลของผู้สมัครงานในการทำแบบทดสอบต่างๆ ข้อมูลของผู้สมัครงานที่บริษัทฯ ได้บันทึกภาพและ/หรือเสียงในระหว่างการทำกิจกรรมเพื่อกระบวนการสรรหาของบริษัท ฯ  เป็นต้น

 

ข้อ 3. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

       บริษัทฯจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลา 2 ปี นับแต่สิ้นสุดขั้นตอนการสัมภาษณ์รอบสุดท้ายของท่าน เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้

       1.กรณีที่ผู้สมัครงานผ่านการคัดเลือกเข้าทำงานเป็นผู้สมัครงานของบริษัทฯ บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปในระยะที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ

      2.กรณีมีเหตุจำเป็นตามคำร้องขอจากเจ้าของข้อมูล, คำสั่งจากหน่วยงานของรัฐ, คำสั่งศาล

      3.บริษัทฯ จะจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

 

ข้อ 4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

       บริษัทฯ จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อบุคคลใดโดยปราศจากการอนุญาตจากเจ้าของข้อมูล อย่างไรก็ดี เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์การเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยตามที่ระบุไว้ข้างต้นผู้สมัครงานรับทราบและยินยอมว่าบริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้กับบุคคลอื่น ดังต่อไปนี้

       1.บริษัท เอ.พี.เค.เฟอร์นิชิ่งพาราวู้ด และ/หรือบริษัทในเครือ APK GROUP

       2.บุคคลหรือองค์กรที่บริษัทฯ ได้ว่าจ้างให้ดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการองค์กรของบริษัทฯ เช่น ผู้ให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศผู้ให้บริการวิเคราะห์ ข้อมูล สถิติ การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์การออกแบบ เป็นต้น

       3.บริษัท ฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลคุ้มครองสวัสดิภาพแรงงาน รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย เช่น การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย การบังคับคดี เป็นต้น

  ทั้งนี้บริษัทฯ จะดำเนินการให้บุคคลหรือองค์กรเหล่านั้นมีมาตราการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด และอยู่บนพื้นฐานการรู้เท่าที่จำเป็นอย่างเคร่งครัดเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญา

 

ข้อ 5.    สิทธิของผู้สมัครงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้สมัครงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิดังนี้

       1.ขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม

       2.แจ้งให้บริษัทฯดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

       3.คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ที่กฎหมายอนุญาตให้เก็บได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล เมื่อใดก็ได้

       4.ขอให้บริษัทฯ ดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีตามที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่มีการร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลจากระบบนั้น ข้อมูลดังกล่าวอาจจะยังคงได้รับการบันทึกหรือทำสำเนาไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ (Server) หรือระบบสำรอง (Backup System) ของบริษัทฯ เพื่อป้องกันการเข้าสู่ระบบภายหลังโดยบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือเพื่อเป็นการสำรองข้อมูลในกรณีที่เกิดความผิดพลาด บกพร่อง หรือเกิดจากความขัดข้องของระบบ หรือในกรณีที่เกิดจากการกระทำใดๆ ที่มีจุดประสงค์มุ่งร้ายของบุคคลหรือซอฟต์แวร์อื่น

       1.ขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีตามที่กฎหมายกำหนด

       2.ถอนความยินยอมเสียเมื่อใดก็ได้

       3.ร้องเรียนในกรณีที่บริษัท ฯ หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

       อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีสิทธิปฏิเสธสิทธิของผู้สมัครงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ข้างต้นโดยอาศัยเหตุตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในภายหน้า หรือกฎหมายอื่นได้อนุญาตไว้

 

ข้อ 6. ผลของการถอนความยินยอม

          ความยินยอมที่ผู้สมัครงานให้ไว้เพื่อเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้นจะยังคงมีผลบังคับใช้จนกว่าผู้สมัครงานจะได้บอกถอนความยินยอมเป็นหนังสือแจ้งต่อบริษัทฯ

          เมื่อบริษัทฯได้รับแจ้งความประสงค์ของผู้สมัครงานตามที่ระบุไว้ในข้อ 5. แล้ว บริษัทฯจะดำเนินการตรวจสอบและแจ้งผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการร้องขอของผู้สมัครงาน (ถ้ามี)   โดยจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นตามคำขอภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับการแจ้งเป็นหนังสือตามแบบฟอร์มที่บริษัทฯ กำหนดจากผู้สมัครงาน

           การเพิกถอนความยินยอมของผู้สมัครงาน จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่ผู้สมัครงานได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านั้น

 

ข้อ 7. คุกกี้ (Cookies)

            เว็บไซต์ของบริษัท อาจใช้คุกกี้ในบางกรณี คุกกี้ คือไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กที่จัดเก็บข้อมูลซึ่งแลกเปลี่ยนระหว่างคอมพิวเตอร์ของท่านและเว็บไซต์ของบริษัท บริษัทใช้คุกกี้เฉพาะเพื่อการจัดเก็บข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่านในครั้งถัดไปที่ท่านกลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท 

        เมื่อท่านเข้าใช้บริการเว็บบราวเซอร์ ท่านสามารถตั้งค่าเพื่อ ยอมรับคุกกี้ทั้งหมดหรือปฏิเสธคุกกี้ทั้งหมด หรือแจ้งเตือนให้ท่านทราบเมื่อมีการส่งคุกกี้ โดยท่านสามารถเข้าไปตั้งค่าที่เมนู “ความช่วยเหลือ” ในบราวเซอร์ของท่านเพื่อเรียนรู้วิธีการเปลี่ยนแปลงการใช้คุกกี้ของท่านได้  โปรดทราบว่าการปิดการใช้งานคุกกี้อาจส่งผลต่อการใช้งานบางบริการของท่านได้ 

 

ข้อ 8.   ช่องทางติดต่อ

       ผู้สมัครงานสามารถติดต่อแผนกทรัพยากรมนุษย์ หรือ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้ตามช่องทาง ดังต่อไปนี้

 

อีเมล์  kanya.b@apkgroup.co.th

ไปรษณีย์หรือส่งด้วยตนเองส่งถึง :  แผนกทรัพยากรมนุษย์  หัวหน้าส่วนงานสรรหาและอบรม หรือ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ที่อยู่ :   บริษัท เอ.พี.เค.เฟอร์นิชิ่งพาราวู้ด จำกัด เลขที่ 508 หมู่ 4 ถนนสนามบิน-บ้านกลาง ตำบลควนลัง อำเภอ                หาดใหญ่  จังหวัดสงขลา  90110

ข้าพเจ้าได้รับทราบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ในการเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าตามขอบวัตถุประสงค์ ดังที่ได้อธิบายไว้ข้างต้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วและขอให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ดังต่อไปนี้

ข้าพเจ้าให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้เปิดเผยและโอนซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในหนังสือแสดงความยินยอมฉบับนี้